ประวัติ Apple การเดินทางของยักษ์ใหญ่แห่งวงการเทคโนโลยี
- ลีลาวดี ซีเคียวริตี้ แอนด์ เน็ตเวิร์ค

- 18 ต.ค. 2567
- ยาว 2 นาที

Apple Inc. เป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีที่ทรงอิทธิพลและมีชื่อเสียงที่สุดในโลก เริ่มต้นจากการเป็นบริษัทเล็กๆ ที่ผลิตคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในโรงรถ จนกลายมาเป็นบริษัทชั้นนำที่เปลี่ยนแปลงวงการเทคโนโลยีในหลากหลายด้าน ตั้งแต่คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต ไปจนถึงบริการซอฟต์แวร์และโซลูชั่นดิจิทัลต่างๆ มาร่วมสำรวจประวัติศาสตร์ของ Apple ตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน
การก่อตั้งและช่วงแรก (1976-1980)
Apple ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 เมษายน ปี 1976 โดย Steve Jobs, Steve Wozniak, และ Ronald Wayne ภายใต้ชื่อ "Apple Computer, Inc." บริษัทก่อตั้งขึ้นโดยมีเป้าหมายในการสร้างและจำหน่ายคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (Personal Computer - PC) ผลิตภัณฑ์แรกของบริษัทคือ Apple I ซึ่งถูกออกแบบและสร้างโดย Wozniak ซึ่งเป็นนักประดิษฐ์มากฝีมือที่สามารถออกแบบคอมพิวเตอร์ที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง Apple I ถูกขายในรูปแบบแผงวงจรเปล่าๆ ในราคา $666.66 โดยผู้ซื้อจำเป็นต้องต่อจอภาพและคีย์บอร์ดเอง
Apple I ประสบความสำเร็จพอสมควร แต่ Apple II ซึ่งเปิดตัวในปี 1977 คือผลิตภัณฑ์ที่ทำให้บริษัทกลายเป็นที่รู้จักในวงกว้าง คอมพิวเตอร์รุ่นนี้มาพร้อมกับจอสีและอินเตอร์เฟสที่ใช้งานง่าย ส่งผลให้ Apple II กลายเป็นสินค้ายอดนิยมในยุคนั้น นอกจากนี้ Apple ยังได้รับการลงทุนจาก Mike Markkula ซึ่งเป็นนักลงทุนสำคัญที่ช่วยผลักดันบริษัทเข้าสู่ตลาดในวงกว้าง

ช่วงรุ่งเรืองและล่มสลายของ Macintosh (1980-1997)
ในปี 1980 Apple ได้เปิดตัว Apple III แต่กลับประสบความล้มเหลวเนื่องจากมีปัญหาด้านการออกแบบและความทนทาน อย่างไรก็ตาม Apple ก็ยังคงพยายามพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ หนึ่งในนั้นคือ Lisa ซึ่งเปิดตัวในปี 1983 แม้จะเป็นคอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่ใช้ Graphical User Interface (GUI) หรืออินเตอร์เฟสกราฟิกที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้ แต่ Lisa กลับมีราคาสูงมากและไม่ประสบความสำเร็จในตลาด
การเปิดตัว Macintosh ในปี 1984 นับเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ Apple เป็นที่รู้จักในวงกว้าง คอมพิวเตอร์ Macintosh มีราคาเข้าถึงได้ง่ายกว่า Lisa และยังคงใช้ GUI ที่โดดเด่น Macintosh ยังได้รับการสนับสนุนจากโฆษณาที่ทรงพลังในช่วงการแข่งขัน Super Bowl ครั้งที่ 18 ซึ่งได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม
แม้ว่า Macintosh จะเป็นนวัตกรรมที่น่าสนใจ แต่ยอดขายไม่เป็นไปตามที่คาดหวังเนื่องจากปัญหาด้านซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ นอกจากนี้ยังเกิดความขัดแย้งภายในบริษัทระหว่าง Steve Jobs กับผู้บริหารคนอื่นๆ ส่งผลให้ในปี 1985 Steve Jobs ต้องออกจากบริษัทที่เขาร่วมก่อตั้ง
หลังจากการจากไปของ Jobs Apple ประสบปัญหาภายในหลายประการ ทั้งการบริหารจัดการและความล้มเหลวของผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ Apple เริ่มสูญเสียตำแหน่งในตลาด เนื่องจากไม่สามารถแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Microsoft และ IBM ได้

การกลับมาของ Steve Jobs และยุคฟื้นฟู (1997-2001)
ในปี 1997 Apple อยู่ในช่วงตกต่ำที่สุด และต้องเข้าซื้อบริษัท NeXT ซึ่งเป็นบริษัทที่ Steve Jobs ก่อตั้งหลังจากออกจาก Apple เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีซอฟต์แวร์ที่ทันสมัย การเข้าซื้อ NeXT ทำให้ Jobs กลับมาสู่ Apple อีกครั้งในตำแหน่งที่ปรึกษา ก่อนที่จะกลายเป็น CEO ของบริษัทอย่างเต็มตัวในภายหลัง
Jobs เริ่มเปลี่ยนแปลงองค์กรครั้งใหญ่ ด้วยการปรับโครงสร้างบริษัทใหม่ทั้งหมด โดยลดการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ซับซ้อนเกินไปและโฟกัสไปที่สินค้าหลัก หนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่สำคัญในช่วงนี้คือ iMac ซึ่งเปิดตัวในปี 1998 iMac เป็นคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะที่มีการออกแบบล้ำสมัยและใช้งานง่าย ส่งผลให้ Apple ฟื้นคืนความนิยมและรายได้อย่างรวดเร็ว

ยุคทองของ iPod และ iPhone (2001-2011)
ในปี 2001 Apple ได้เปิดตัว iPod ซึ่งเป็นเครื่องเล่นเพลงแบบพกพาที่สามารถเก็บเพลงได้หลายพันเพลง iPod กลายเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็วและเปลี่ยนแปลงวงการเพลงดิจิทัลอย่างสิ้นเชิง พร้อมกับการเปิดตัว iTunes Store ที่ให้ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดเพลงได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
การเปิดตัว iPhone ในปี 2007 ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่ทำให้ Apple กลายเป็นผู้นำในตลาดสมาร์ทโฟน iPhone ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามเนื่องจากการผสมผสานเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า เช่น หน้าจอสัมผัส อินเตอร์เฟสที่ใช้งานง่าย และความสามารถในการใช้งานเป็นโทรศัพท์ กล้องถ่ายรูป และเครื่องเล่นมัลติมีเดียในเครื่องเดียวกัน
iPhone ไม่เพียงเปลี่ยนแปลงวิธีการใช้งานโทรศัพท์มือถือ แต่ยังสร้างอุตสาหกรรมใหม่ๆ เช่น การพัฒนาแอปพลิเคชันบน App Store ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้พัฒนาโปรแกรมและบริษัทต่างๆ สามารถสร้างแอปเพื่อใช้บน iPhone ได้

ช่วงหลังจากการจากไปของ Steve Jobs (2011-ปัจจุบัน)
หลังจากการจากไปของ Steve Jobs ในปี 2011 Tim Cook ขึ้นดำรงตำแหน่ง CEO ของ Apple และนำบริษัทต่อยอดจากความสำเร็จที่ Jobs วางไว้ โดยการพัฒนา iPad, Apple Watch, Apple Music และบริการอื่นๆ ที่ยังคงเสริมความแข็งแกร่งให้กับ Apple
Apple ยังคงมีบทบาทสำคัญในวงการเทคโนโลยีโลก ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ล้ำสมัยอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น iPhone รุ่นใหม่ๆ ที่เน้นคุณสมบัติด้านกล้อง ความเร็วของชิปประมวลผล และความสามารถในการเชื่อมต่อที่รวดเร็ว รวมถึงการขยายตลาดไปสู่ บริการซอฟต์แวร์และคลาวด์ เช่น Apple TV+, iCloud และบริการอื่นๆ ที่ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับบริษัท

จากการก่อตั้งในโรงรถเล็กๆ ในปี 1976 จนถึงการกลายเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก Apple ได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาอย่างมากมาย นวัตกรรมต่างๆ ของ Apple ไม่เพียงแต่เปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมเทคโนโลยี แต่ยังสร้างอิทธิพลต่อวิถีชีวิตของผู้คนทั่วโลกอีกด้วย Apple ไม่เพียงแค่ผลิตสินค้า แต่ยังสร้างวัฒนธรรมและแนวคิดใหม่ในการใช้งานเทคโนโลยีที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง




ความคิดเห็น